หากสร้างบินพาณิชย์ลำเดียวให้กลายเป็นจุดสนใจดารารุ่นพี่ระดับเอ-ลิสต์ของเกาหลีใต้อย่างฮาจองอูและพระเอกหนุ่มรุ่นน้องอย่างโยจินกูได้โคจรมาปะทะฝีมือในภาพยนตร์เรื่อง "HIJACK: นรกเหนือน่านฟ้า" ภายใต้การกำกับของคิมซองฮัน ซึ่งดัดแปลงจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกว่า 50 ปีก่อน เมื่อมีผู้ร้ายจี้เครื่องบินของเกาหลีใต้และบังคับให้นักบินบินไปยังเกาหลีเหนือ งานชิ้นนี้จึงน่าจับตามองว่าจะสร้างความระทึกใจให้แฟนๆ ภาพยนตร์เกาหลีและแฟนๆแนวแอ็กชัน-อาชญากรรมได้มากน้อยเพียงใด"HIJACK: นรกเหนือน่านฟ้า" กำลังจะวิบัติลงในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 5 กันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ใช่เพียงแค่ภาพยนตร์สัญญลักษณ์ แอ็กชันที่คำนึงถึงการจี้เครื่องบินเท่านั้น แต่ยังอาจสะท้อนโลกทัศน์ของคนในช่วงทศวรรษที่ 1970 ที่แตกต่างจากยุคปัจจุบันได้ด้วย โดยผ่านการถ่ายทอดของดารานำจากทั้งสองวัย# ชายทั้งสองยอมแลกชีวิตเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารแท้จริงแล้ว บทของนักแสดง 2 คนก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาเคยเล่นมาก่อน ทั้งความรุนแรง อารมณ์โกรธเกรี้ยว การใช้ความรุนแรง และการตะโกนกรีดร้องยังคงเป็นความท้าทายใหม่ๆ สำหรับพวกเขาในการแสดง ซึ่งทั้งฮาจองอูและโยจินกูได้ให้ความเห็นตรงกันว่าการได้รับโจทย์ใหม่ๆ ที่แตกต่างจากที่เคยเล่นมาทำให้พวกเขามีโอกาสพัฒนาศักยภาพในการแสดงยิ่งขึ้น### นักบินทหารอากาศที่ละทิ้งความฝันฮาจองอู ผู้รับบทนักบินแทอิน เปิดเผยว่าคาแรกเตอร์ของตัวเขานั้นมีความสัมพันธ์กับอดีตของเขาเอง เมื่อครั้งที่เขาเคยเป็นนักบินรบในกองทัพอากาศ แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นทำให้เขาต้องละทิ้งความฝันนี้ไปและเปลี่ยนมาเป็นนักบินของสายการบินพาณิชย์แทน ดังนั้นในตอนจบของภาพยนตร์ที่แทอินต้องตัดสินใจอีกครั้ง ฮาจองอูจึงมองเห็นจุดร่วมระหว่างคาแรกเตอร์ของตัวเองและตัวละครที่รับบท ทำให้การถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ ออกมาได้อย่างลึกซึ้งและน่าสนใจยิ่งขึ้น### "ยงแด" มือปล้นอันตรายในขณะที่ โยจินกู ผู้รับบทตัวละคร "ยงแด" หรือนักปล้นหนุ่มที่บุกเข้าไปจี้เครื่องบิน เปิดเผยว่าการได้รับบทบาทนี้ก็เป็นความท้าทายใหม่เช่นกัน เนื่องจากเป็นตัวละครที่มีความคิดและแนวทางแตกต่างออกไปจากตัวละครอื่นๆ ที่เขาเคยรับบทมาก่อน จึงต้องอาศัยการปรึกษาหารือกับผู้กำกับและนักแสดงรุ่นพี่เพื่อให้ตัวละครมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น### การสร้างความตึงเครียดตลอดเรื่องนอกจากการสร้างบทบาทของตัวละครแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอื่นๆ อีก โดยเฉพาะการถ่ายทำเรื่องราวที่ตึงเครียดตลอดเวลาภายในเครื่องบิน ซึ่งฮาจองอูกล่าวว่า แม้ว่าเหตุการณ์จริงจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที แต่ในภาพยนตร์นั้นจะอัดแน่นเข้าไปใน 1 ชั่วโมง 5 นาที ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมากในการถ่ายทำให้อารมณ์ความรู้สึกตึงเครียดของเรื่องคงอยู่ตลอดไปจนจบภาพยนตร์ด้วยบทบาทใหม่ๆ ที่ท้าทายของนักแสดงทั้งสอง ประกอบกับเค้าโครงเรื่องที่สร้างความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง "HIJACK: นรกเหนือน่านฟ้า" จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดสนใจที่น่าจับตามองของวงการภาพยนตร์เกาหลีในปีนี้