รถกระบะซิ่งแข่งกันบนถนนปทุม-เสนา เสียหลักกระเด็นข้ามเลน ชนรถสองผัวเมียจอดทิ้งขยะตาย 2
Aug 25, 2024 at 7:50 AM
ความรับผิดชอบที่ขาดหายไป: เมื่อการแข่งแรงพาพิษถึงครอบครัว
เหตุการณ์อันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นบนถนนสายปทุม-เสนา นำมาซึ่งบทเรียนที่ควรสะท้อนยอนมายังใจสังคม ความร่วมมือกันเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และการเสาะหาแนวทางปกป้องชีวิตอันล้ำค่าเปลี่ยวรถคือฆ่าชีวิต
ชนกันท้ายวัน ล่ะราษฎร์ถึงตาย
ในวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 07.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.สามโคก ได้รับรายงานเหตุรถกระบะชนกัน 3 คัน บริเวณถนนสายปทุม-เสนา ในตำบลสามโคก จังหวัดปทุมธานี มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 2 ราย เมื่นไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบรถกระบะทั้ง 3 คัน ได้แก่ รถกระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน กว 9481 ที่มีสภาพพังยุบทั้งหน้าและท้าย, รถกระบะมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน 6 กญ 6389 ที่คร่อมระหว่างเลน และรถกระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน กษ 2248 ที่หน้ารถยุบมากความเร็วเกินพิกัด ทำนรกสองชีวิตวอด
จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่าก่อนเกิดเหตุ รถกระบะมิตซูบิชิที่มีคุณนาย ณรรฐวรรณ์ เวชมนัส นั่งอยู่บนเบาะหลัง จอดอยู่ข้างทางเพื่อทิ้งขยะ ขณะที่มีรถกระบะอีซูซุ 2 คัน ได้แก่ คันที่มีคนขับเป็นนายพีระพงษ์ ซ้องสกุล และคันที่มีคนขับเป็นนายบดี มหิวรรณ์ ขับแข่งกันมา จนลงสะพานเสียหลัก และเฉี่ยวชนกัน ทำให้รถกระบะมิตซูบิชิที่นายบดีขับถูกชน คนขับและภรรยาพลัดตกจากรถ โดยนายบดีเสียชีวิต ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บ ขณะที่นายพีระพงษ์พุ่งชนเสาไฟฟ้า ศีรษะกระเด็นออกมานอกรถ ทำให้เสียชีวิตแบบสลดสังเวชแขวนป้ายเตือนเร็ว ไม่คนรักเร็วเกินไป
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พบชิ้นส่วนของรถทั้ง 3 คัน กระจัดกระจาย รวมถึงป้ายบอกทางของแขวงการทาง และป้ายบอกเส้นทางสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของการชนครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีเสาไฟฟ้าที่ถูกชนเสียหาย เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความรับผิดชอบที่ขาดหายไปของคนที่เกี่ยวข้องวันนี้คงได้เรียนรู้ ถึงคุณค่าของชีวิต
เหตุการณ์ในวันนี้นำมาซึ่งความเศร้าและความสูญเสียอย่างมหาศาล ทั้งชีวิตที่ถูกปิดรอยยิ้มไปตลอดกาล และความทุกข์ของญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งนับเป็นบทเรียนอันสำคัญที่สังคมควรสะท้อนยอนไปยังตนเอง ว่าการสร้างความสปีดพาไปสู่ความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง อาจทำให้แย่กว่านี้ได้อีก หากปราศจากการจัดการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองชีวิตอย่างจริงจัง หรือการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้คนตระหนักถึงความสำคัญของการขับขี่อย่างระมัดระวัง ทั้งหมดนี้สำคัญไม่แพ้กันในการรักษากระแสชีวิตของสังคมไทยให้ตั้งมั่น