แบลนเชตต์ยอมรับว่าเธอเป็นกังวลจริง ๆ เกี่ยวกับผลกระทบของ AI ที่มีต่ออุตสาหกรรมบันเทิง. เธอเชื่อว่า AI นั้นอาจเข้ามาแทนที่มนุษย์ในงานของภาพยนตร์ และอาจส่งผลกระทบไปไกลกว่านั้น. เธอไม่แค่กังวลสำหรับตนเองในอาชีพการแสดง แต่ยังกังวลสำหรับผู้คนในวงกว้าง เช่น ผู้สูงอายุที่รับเงินบำนาญ และผู้ที่ทำ 3 งาน เพื่อให้อยู่รอดจากความยากจน.
เธอเชื่อว่าเทคโนโลยี AI ทำงานอย่างไร้จุดหมายที่แน่ชัด และอาจทำให้ผลงานแสดงล่าสุดของเธอ显得ไม่สำคัญ. เช่น ในภาพยนตร์ ‘Rumours’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญคอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องของเหล่าผู้นำโลกที่มาประชุม G7 แล้วเกิดหลงทางในป่า ในขณะที่พื้นที่โดยรอบถูกฝูงซอมบี้คุกคาม. เธอเชื่อว่าประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์เป็นเหมือนภาพสะท้อนของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก.
แบลนเชตต์คิดว่า AI ใช้ในเรื่องหลักที่ต้องพูดถึงจนกระทั่งเกิดการประท้วงของนักเขียน. ในแง่หนึ่ง AI ดูเหมือนเป็นความสร้างสรรค์ แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันก็เป็นการทำลายอุตสาหกรรมนี้อย่างเหลือเชื่อเช่นกัน. เธอไม่รู้จริง ๆ ว่า AI กำลังนำพาอะไรมาให้ใครบ้าง แต่เธอเชื่อว่ามันอาจมีผลต่อทุกคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์.
เธอยังกล่าวว่า เทคโนโลยีนี้อาจทำให้มนุษย์เสียงานและลดค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์. แต่同時มันก็อาจสร้างความไม่แน่นอนและความรู้สึกว่าไม่มีคุณภาพในผลงานของภาพยนตร์. เธอเชื่อว่าความเป็นจริงของ AI ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังไม่ชัดเจน แต่มันเป็นปัญหาที่ต้องพิจารณาและเตรียมตัวสำหรับ.
แบลนเชตต์เชื่อว่า AI และภาพยนตร์มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง. AI สามารถช่วยสร้างภาพยนตร์ใหม่และประหยัดเวลาในการสร้าง แต同時มันก็อาจลดความเป็นจริงและความรักในภาพยนตร์. เธอเชื่อว่าประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์เป็นผลของความรักและความเชื่อของมนุษย์และไม่สามารถถูกแทนที่โดย AI ได้.
เธอยังกล่าวว่า AI สามารถช่วยประยุกต์ใช้ความรู้และความสามารถของมนุษย์ในภาพยนตร์ แต同時มันก็อาจทำให้มนุษย์ลืมความรู้และความสามารถของตนเอง. เธอเชื่อว่ามันเป็นปัญหาที่ต้องพิจารณาและหาวิธีในการใช้ AI ในภาพยนตร์ในที่ดีที่สุด.