เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้สถานที่ที่เคยเป็นที่รู้จักในนามแดนธรรมสุขขาววะดีต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมน.ส.โสวรีร์ ทองอินทร์ หรือที่รู้จักกันในนาม 'น้องหญิง' พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่สถานที่ดังกล่าว ตามหมายศาลอาญามีนบุรี และต่อมาได้มีการส่งตัวไปดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับชุมชนที่เคยเงียบสงบ
หลังจากนั้นไม่นาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีได้มีการออกหนังสือด่วนที่สุด สั่งให้หยุดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคที่แดนธรรมสุขขาววะดี ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะต้องเกิดขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวในวันที่ 25 พฤษภาคม เพื่อตรวจสอบสภาพหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าสถานที่ที่เคยเป็นจุดรวมพลังจิตของผู้คนมากมายนั้น ตอนนี้เงียบเหงา โดยไม่มีน้องหญิง อาจารย์ชาย และพี่โดม รวมถึงลูกศิษย์ที่เคยอยู่ที่นั่น
โรงเรือนที่เคยใช้สำหรับการรักษา ซึ่งสร้างด้วยไม้ไผ่และมุงด้วยหญ้าแฝก ยังคงอยู่ในสภาพเดิม แต่ไม่มีการดูแลรักษา สิ่งของบางส่วนถูกเก็บไว้ในถุงพลาสติกเพื่อป้องกันความชื้น ในขณะที่บางส่วนยังคงวางอยู่เหมือนเดิม ส่วนบ้านไม้ที่คาดว่าเป็นที่พักของน้องหญิงและคณะ ก็ถูกปิดล็อคไว้
แม้ว่าน้องหญิงและคณะจะได้เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อออกรายการทีวี และเล่าถึงความเชื่อและวิธีการรักษาของพวกเขา แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ยังไม่ได้กลับมายังแดนธรรมสุขขาววะดี
พระกิตติเดช บุญเต็ม ซึ่งเป็นหนึ่งในพระสงฆ์ที่ยังคงอยู่ที่นั่น ได้เล่าว่า ตั้งแต่น้องหญิงและคณะได้เดินทางไปกรุงเทพฯ พวกเขาก็ยังไม่ได้กลับมา และมีการติดต่อจากทีวีเพื่อไปออกรายการอีกครั้ง ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับมาได้ในทันที
แม้จะมีคำสั่งให้หยุดการรักษา แต่พระกิตติเดชและชาวบ้านที่อยู่ที่นั่นยังไม่ได้เห็นหนังสือจากสำนักงานสาธารณสุข พวกเขาได้ใช้เทปปิดคำว่า 'รักษา' เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งในระดับหนึ่ง
หากน้องหญิง อาจารย์ชาย และพี่โดมไม่กลับมาอีก มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงสถานที่นี้ให้เป็นสำนักสงฆ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่สอดคล้องกับความเป็นจริงของสถานการณ์ปัจจุบัน