เสียชีวิตอย่างกะทันหัน! คูณภัยถนน หนุ่มซิ่งเก๋งเสียหลัก ขับข้ามเลน ชนดับ 1 เจ็บ 3 ราย

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 5 ก.ย. 67 เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนถนนบางขัน-หนองเสือ (บนสะพานข้ามแยกวัดพระธรรมกาย) ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รถเก๋งยี่ห้อต่างๆ ได้เกิดการชนกัน ส่งผลให้มีผู้ เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องติดรถยนต์ พบปริมาณความเร็วของรถเก๋งคันที่เกิดเหตุอยู่ที่ 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับข้ามเลนมาชนกับรถเก๋งอื่นๆ ก่อนเกิดเหตุส่งผลร้ายแรงดังกล่าว

ชีวิตอันล้ำค่าที่ต้องสูญเสีย

ความสูญเสียที่ไม่อาจเยียวยา

นางศิรมาพร ภู่สุวรรณ แม่ของ นางสาวนราทิพย์ ผู้เสียชีวิต เผยว่า ลูกสาวของตนเป็นเสาหลักของครอบครัว เนื่องจากตนและพ่อต้องออกไปทำงานที่อยุธยา ในขณะที่ลูกสาวอยู่กับตาและน้าที่สามโคก ซึ่งตาก็มีอายุจะ 80 ปีแล้ว ลูกสาวอยู่ดูแลตาและน้ามาตั้งแต่เล็ก และวันที่ 19 กันยายนที่จะถึงนี้ ก็จะเป็นวันเกิดครบ 28 ปีของลูกสาวนางศิรมาพร ยังเผยอีกว่า ก่อนเกิดเหตุตนก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร ตนมักจะโทรคุยกับลูกสาวบ่อยๆ และขอฝากถึงคู่กรณีว่า ไม่ทราบว่าเขาหนีอะไรมา แต่ถ้าขับรถแบบนี้โดยไม่ใส่ใจต่อชีวิตผู้อื่น ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะลูกต้องมาจากไปเพราะการกระทำของคนอื่น

ความเร็วเกินขีด บนเส้นทางอันตราย

จากการตรวจสอบกล้องหน้ารถรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ของผู้ประสบเหตุ พบว่ารถคันดังกล่าวขับด้วยความเร็วสูงถึง 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้เสียหลักข้ามเลนชนกับรถเก๋งยี่ห้อมาสด้าที่มีผู้เสียชีวิตอยู่ ก่อนที่จะหมุนไปชนรถคันอื่นอีก 1 คัน ส่งผลให้นางสาวนราทิพย์ ผู้ขับขี่รถเก๋งมาสด้า เสียชีวิตอย่างกระทันหัน และผู้โดยสารรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ได้รับบาดเจ็บ 2 คนเหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของอุบัติเหตุบนท้องถนน อันเกิดจากการขับขี่ที่ประมาท และเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตและร่างกายของผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างไม่อาจเยียวยาได้

ผลกระทบต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต

แฟนหนุ่มของนางสาวนราทิพย์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสาวนราทิพย์ได้โทรศัพท์บอกว่ากำลังจะกลับบ้าน แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้แจ้งข่าวเศร้า ว่านางสาวนราทิพย์เสียชีวิตแล้ว ซึ่งถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับครอบครัวของเธอนางศิรมาพร แม่ของนางสาวนราทิพย์ ยังเผยอีกว่า ลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว เนื่องจากตนและพ่อต้องออกไปทำงานที่อื่น จึงต้องพึ่งพาลูกสาวในการดูแลตาและน้าที่มีอายุมาก ทั้งยังเป็นกำลังใจที่สำคัญให้กับครอบครัว แม้ว่าวันเกิดที่จะถึงนี้ลูกจะมีอายุครบ 28 ปีแล้ว แต่ตอนนี้ต้องมาจากไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ ถือเป็นความสูญเสียอย่างล้ำค่าสำหรับครอบครัว

ตำรวจเร่งสอบคลายข้อสงสัย

จากการสอบสวนของตำรวจ พบว่าผู้ขับขี่รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ได้ขับด้วยความเร็วสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และเสียหลักข้ามเลนไปชนรถเก๋งของผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะหมุนกลับมาชนรถอีก 1 คัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บตำรวจได้เรียกผู้ขับขี่รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค และผู้โดยสารมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ รวมถึงได้ส่งตัวไปเข้ารับการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ด้วย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่างออกมาเรียกร้องให้ผู้ขับขี่รับผิดชอบ และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต