เตือนระวัง! ชาวต่างชาติหัวร้อนออกโรงทุบกระจกรถสาวไทย หลังขับปาดหน้ากัน ภรรยาผู้ป่วยกระแทกภายใน

เหตุการณ์น่าเศร้าที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งต้องเผชิญกับความรุนแรงจากชาวต่างชาติ หลังจากเกิดเหตุการณ์ปาดหน้ากันบนท้องถนน ทำให้รถของหญิงสาวถูกทุบกระจกอย่างดุเดือด โดยเจ้าของรถอ้างว่าภรรยาผู้ป่วยที่อยู่ในรถถูกกระแทกอันเนื่องมาจากการเบรกกะทันหันของคู่กรณี ก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามจนต้องเรียกตำรวจเข้ามาดูแล

อย่าด่วนตัดสิน เล่าชัดๆ ก่อนสรุป!

ชาวต่างชาติปาดหน้า ก่อนทุบกระจกรถสาวไทย

จากรายงานข่าวระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้ศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งขับรถลงอุโมงค์ไปยังจุดหมายปลายทาง แต่ปรากฏว่ารถของชาวต่างชาติได้พยายามปาดหน้าแซงขึ้นมา ทำให้เกิดเสียงเปล่งออกมาจากแตรรถอย่างดังสนั่น และมีการขับปาดกันไปมา จนหญิงสาวต้องหยุดรถลงเมื่อทั้งสองฝ่ายหยุดรถกัน ชายต่างชาติก็ได้ลงจากรถ และเข้ามาทุบกระจกรถของหญิงสาวที่ด้านหลัง จนเกิดความเสียหาย โดยหญิงสาวได้ถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากกลัวว่าถ้าเขาได้เปิดประตูรถเข้ามา อาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ในคลิปวิดีโอที่หญิงสาวได้บันทึกไว้นั้น เห็นชัดเจนว่าชายต่างชาติได้ทุบกระจกรถของหญิงสาวอย่างดุเดือด แม้ว่าหญิงสาวจะบอกว่าเธอเพียงแค่กดถ่ายวิดีโอเป็นหลักฐานเท่านั้น แต่ชายต่างชาติก็ยังพยายามเข้ามาภายในรถและพูดจาดูถูกหญิงสาวอีกด้วยหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว หญิงสาวจึงได้แจ้งความกับทางตำรวจ เพื่อขอความเป็นธรรมและดำเนินคดีกับชายต่างชาติผู้ก่อเหตุ โดยได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีที่ขับรถผ่านในช่วงเวลาเกิดเหตุ เพื่อขอให้ส่งคลิปจากกล้องหน้ารถของตนมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติม

ตำรวจรีบเข้าดำเนินคดี หลังรับแจ้งความ

เมื่อหญิงสาวเข้าแจ้งความ ทางตำรวจก็ได้รีบดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายซันนี่ ชาวอเมริกัน อายุ 44 ปี ซึ่งได้เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อให้การต่อพนักงานสอบสวนในการให้การ นายซันนี่ได้อ้างว่า ตนกำลังรีบพาภรรยาซึ่งป่วยอยู่ไปพบแพทย์ แต่รถคู่กรณีได้เบรกกะทันหันจนทำให้ภรรยาของตนกระแทกในรถ จึงทำให้เกิดความโมโหและจึงได้ลงจากรถเพื่อจะสอบถาม แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับการตรวจสอบพบว่านายซันนี่มีใบอนุญาตขับรถสากลเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า ทำให้เสียทรัพย์ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยนายซันนี่ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และจะมีการยื่นฟ้องต่อศาลในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ต่อไป

ปล่อยให้กฎหมายดำเนินการ

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างคนในท้องถิ่นและชาวต่างชาติ อันเนื่องมาจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน หรือความคับข้องใจในบางเหตุการณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงได้ในที่สุดในกรณีนี้ ทางตำรวจได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีกับชายต่างชาติตามกระบวนการทางกฎหมายแล้ว ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับความเป็นธรรมตามที่พึงได้รับดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในเหตุการณ์เช่นนี้ คือ การรอให้กระบวนการทางกฎหมายได้ดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยไม่ควรด่วนสรุปหรือแสดงความคิดเห็นส่วนตัวที่อาจส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเกิดการถูกกล่าวโทษในภายหลัง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย