BITE SIZE : รถโดยสาร BRT ปรับโฉมใหม่ ดีกว่าเดิมแค่ไหน ?

Sep 7, 2024 at 4:00 AM

เปิดโฉมใหม่! BRT กรุงเทพฯ มาพร้อมรถไฟฟ้าและการให้บริการที่ปรับปรุงใหม่

ระบบรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งให้บริการผู้โดยสารมากกว่า 10 ปี ได้เข้าสู่ยุคปรับโฉมใหม่ โดย BTSC ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการ BRT ในระยะ 5 ปีข้างหน้า (2567-2572) และเริ่มให้บริการรถ BRT รูปแบบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา

เซอร์ไพรส์ BRT รูปแบบพลังงานไฟฟ้า พร้อมรองรับผู้โดยสารทุกกลุ่ม

ยกเครื่อง BRT เป็นรถไฟฟ้า 100%

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของระบบ BRT คือ การปรับเปลี่ยนรถโดยสารจากรถที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งสู่การเป็นระบบคมนาคมสีเขียวที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปสู่บรรยากาศ นอกจากนั้น รถรุ่นใหม่ยังมีจำนวนที่ให้บริการลดลงจาก 25 คันเป็น 23 คัน แต่ความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารที่มีเท่าเดิม โดยมีพื้นที่ภายในกว้างขวางขึ้นเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น

ปรับโฉมรูปลักษณ์รับรองคนพิการและผู้สูงอายุ

เมื่อพูดถึงโฉมใหม่ของรถ BRT ก็ไม่พ้นการปรับรูปลักษณ์ของตัวรถให้มีความทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะการออกแบบเป็นชานต่ำ (Low Floor) ที่สามารถรองรับการใช้งานของรถเข็นผู้พิการได้อย่างสะดวก ซึ่งแตกต่างจากรถรุ่นเดิมที่พื้นรถสูงกว่าระดับผิวถนนถึง 34 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มจำนวนประตูเข้า-ออกทางด้านขวาเพิ่มเติมจากประตูด้านซ้ายที่มีอยู่เดิม เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบบัตรโดยสารและการขึ้น-ลงของผู้โดยสาร โดยภายในตัวรถยังคงมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนของผู้โดยสารด้วย

ปรับปรุงเส้นทางและเพิ่มจุดจอดใหม่

นอกจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนของตัวรถโดยสารแล้ว การให้บริการ BRT ในระยะสัญญาใหม่ยังมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางและจุดจอดรถด้วย โดยเพิ่มจำนวนสถานีจาก 12 สถานีเป็น 14 สถานี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จากสาทรไปจนถึงราชพฤกษ์ และเพิ่มสถานีใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ สถานีถนนจันทน์เหนือและสถานีถนนจันทน์ใต้ ทั้งนี้ยังมีแผนในการขยายเส้นทางไปยัง MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี และสถานีนราราม 3 เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการมากขึ้น

ระบบชำระค่าโดยสารที่ทันสมัย

ในด้านการชำระค่าโดยสาร BRT รุ่นใหม่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้น โดยผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารผ่านบัตรแรบบิทหรือสแกน QR Code ด้วยโทรศัพท์มือถือ แทนการซื้อบัตรโดยสารที่สถานี ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง ทั้งนี้ในช่วง 2 เดือนแรกหลังจากเริ่มเปิดให้บริการจะเป็นการให้บริการฟรี ก่อนจะเริ่มเก็บค่าโดยสารอย่างเป็นทางการในภายหลัง

เพิ่มความถี่ในเวลาเร่งด่วน ลดปัญหาการให้บริการ

ถึงแม้ว่าในช่วงเริ่มเปิดให้บริการใหม่จะพบปัญหาบางประการ เช่น ความล่าช้าของรถ ความถี่ของการให้บริการ และปัญหาเรื่องการชาร์จไฟ แต่ทางสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ได้แจ้งให้ BTSC ปรับปรุงแก้ไขเพื่อเพิ่มความถี่ในช่วงเร่งด่วน และตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ระบบการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าในระยะเวลาอันใกล้ ทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติและให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ