เจาะลึก! มาตรฐานช่วยเหลือรถยนต์ถูกน้ำท่วม จ่ายค่าซ่อมสูงสุด 30,000 บาท

จากสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อภาคเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้รถยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จึงได้กำหนดมาตรฐานการซ่อมแซมรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับการชดเชยและสามารถกลับมาใช้งานรถยนต์ได้อย่างปลอดภัย

พร้อมเร่งช่วยเหลือเจ้าของรถที่ถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว

มาตรฐานการซ่อมรถยนต์ถูกน้ำท่วม แบ่งเป็น 5 ระดับ

ในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ คปภ. ได้กำหนดมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเป็น 5 ระดับ โดยจะทำการประเมินค่าซ่อมแล้วแต่ลักษณะและระดับความเสียหาย ดังนี้ระดับ A: น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000-10,000 บาทระดับ B: น้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000-20,000 บาทระดับ C: น้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาทระดับ D: น้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไประดับ E: รถยนต์จมน้ำทั้งคัน กรณีนี้บริษัทจะคืนทุนประกันภัยทั้งนี้ การกำหนดมาตรฐานดังกล่าวจะช่วยให้เจ้าของรถสามารถวางแผนการซ่อมแซมรถยนต์และการเบิกจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม

เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งกู้ช่วยรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม

นอกจากการกำหนดมาตรฐานการซ่อมแซมรถยนต์ คปภ. ยังได้ประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยต่างๆ เพื่อเร่งกู้และช่วยเหลือเจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายอย่างทันท่วงที โดย วิริยะประกันภัย ได้ระดมกำลังพลเข้าปฏิบัติการ "FIRST AID" เพื่อรีบนำรถออกจากพื้นที่เสี่ยงก่อนที่ความเสียหายจะลุกลามมากขึ้นนายณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ประสานไปยังเครือข่ายตัวแทน นายหน้า ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อแจ้งเจ้าของรถให้ติดต่อขอใช้บริการรถยกของบริษัทฯ โดยตรง ซึ่งพร้อมจะรีบเข้าไปกู้รถในทันที เพื่อลดความเสียหายให้มากที่สุดนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพของทีมปฏิบัติการ FIRST AID ให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการอบรมพัฒนาความรู้ความชำนาญให้แก่พนักงาน และพัฒนากระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ได้ทันที

บริษัทประกันพร้อมช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย

นอกจากการช่วยเหลือด้านการซ่อมแซมรถยนต์แล้ว บริษัทประกันภัยต่างๆ ยังได้ระดมกลุ่มจิตอาสาเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยในรูปแบบต่างๆ อีกด้วยนายณัฐพงศ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการเข้าไปช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยหลังน้ำลด เพื่อให้สามารถกลับสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยได้บูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าสำรวจรถยนต์ เพื่อสำรวจปัญหาและความต้องการช่วยเหลือของประชาชนในแต่ละพื้นที่ แล้วจึงดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุดด้วยความมุ่งมั่นและมาตรฐานการให้บริการที่ดีเยี่ยม บริษัทประกันจึงกลายเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ