รวบแก๊งหลอกซื้อรถมือสอง ทำทีขอนัดดูรถ ก่อนอ้างตัวเป็นตำรวจ เชิดรถหนีหาย | สวพ.FM91

Sep 8, 2024 at 12:05 PM

ตำรวจจับคณะปล้นรถยนต์ปลอมตัวเป็นตำรวจ

ในเหตุการณ์ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับตำรวจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการสืบสวนและจับกุมผู้ต้องหาในข้อหาปล้นรถยนต์โดยการปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความอาฆาตมาดร้ายของกลุ่มคนร้ายที่มุ่งหวังเพียงแค่ผลประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย

ปล้นรถยนต์อย่างโอหังด้วยการปลอมตัวเป็นตำรวจ

คดีปล้นรถยนต์ระดมกำลังตำรวจปราบปราม

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับตำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการสืบสวนและจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญรายหนึ่งในข้อหาร่วมกันปล้นรถยนต์โดยการปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายเอ อายุ 39 ปี ถูกจับกุมบริเวณหน้าบ้านที่ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาครการจับกุมนายเอในครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 โดยมีรายละเอียดว่าผู้เสียหายได้โพสต์ขายรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ารุ่นรีโว่สีขาวในกลุ่มขายรถมือสองในเพจเฟซบุ๊ก ต่อมามีบุคคลติดต่อมาซื้อรถในราคา 320,000 บาท และนัดกันส่งมอบรถที่บริเวณโรงแรมย่านห้วยขวาง กรุงเทพมหานครเมื่อถึงเวลานัดหมาย มีชาย 3 คนเข้ามาในสถานที่นัดพบ โดย 1 ใน 3 คนได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงเอกสารที่คล้ายกับบันทึกประจำวันซึ่งกล่าวว่ารถคันดังกล่าวถูกแจ้งว่าหายไปแล้ว จากนั้นได้ขอดูบัตรประชาชนของผู้เสียหาย ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายลืมเอาไว้ที่ห้องพัก กลุ่มคนร้ายจึงสบโอกาสแจ้งให้ผู้เสียหายไปเอาบัตรมามอบให้ และขอให้ผู้เสียหายส่งมอบกุญแจรถเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เมื่อผู้เสียหายกลับมาที่เกิดเหตุกลับไม่พบกลุ่มคนร้ายและพบว่ารถกับกุญแจหายไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการสืบสวนติดตามและสามารถจับกุมนายเอ พร้อมตรวจยึดรถของกลางได้บริเวณหน้าบ้าน ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร และนำตัวไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญา ส่วนผู้ต้องหารายอื่นที่ยังหลบหนีก็อยู่ในระหว่างการติดตามจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป

เมื่อตำรวจกลายเป็นเครื่องมือของความอาฆาต

เหตุการณ์คดีปล้นรถยนต์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความโอหังของกลุ่มคนร้ายที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และพร้อมที่จะใช้วิธีการอันเลวร้ายในการทำผิดกฎหมายเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน โดยไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้เสียหายในการปล้นรถยนต์ครั้งนี้ กลุ่มคนร้ายได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการใช้เอกสารที่คล้ายกับบันทึกประจำวันในการอ้างสิทธิ์ และขอตรวจดูเอกสารของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นวิธีการที่เล่ห์เหลี่ยม และสามารถหลอกลวงผู้เสียหายให้เกิดความเชื่อใจ จนกระทั่งสามารถปล้นรถยนต์ไปได้สำเร็จสถานการณ์เช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย แต่ยังสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของหน่วยงานตำรวจอีกด้วย ตำรวจจึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของประชาชนต่อกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ก้าวเดินสู่การแก้ไขปัญหามั่นคงและยั่งยืน

ในการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ ถือเป็นความสำเร็จของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถกระทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมแบบนี้ไม่สามารถกระทำเพียงแค่การจับกุมเท่านั้น แต่ต้องมีการดำเนินการในด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนหนึ่งในแนวทางที่สำคัญคือการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับหน่วยงานตำรวจ โดยการเพิ่มทรัพยากรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และจิตสำนึกให้กับเจ้าหน้าที่ในการรักษาจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตนอกจากนี้ ยังต้องมีการขยายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานตำรวจและภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ในสังคม เพื่อให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมได้อย่างครอบคลุมและยั่งยืน เช่น การสร้างความร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการปราบปรามอาชญากรรมการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมขั้นรุนแรงแบบนี้ จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือและความตั้งใจจริงจังของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืน