ไทยสร้างประวัติศาสตร์ในพาราลิมปิก 2024 ด้วยผลงานอันโดดเด่น

การแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 โดย "ทัพนักกีฬาไทย" สร้างประวัติศาสตร์กวาดเหรียญรางวัลมาครองได้มากที่สุดด้วยจำนวนรวม 30 เหรียญ แบ่งเป็น 6 เหรียญทอง, 11 เหรียญเงิน และ 13 เหรียญทองแดง ซึ่งกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้เตรียมมอบเงินรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬาทุกคนที่ทำได้ตามเป้าหมาย โดยมียอดรวมทั้งหมดสูงถึง 162,600,000 บาท

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของนักกีฬาไทยในเวทีพาราลิมปิก

ผลงานอันโดดเด่นของนักกีฬาไทย

นักกีฬาไทยสร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ด้วยการคว้ารวม 30 เหรียญรางวัล ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยแบ่งเป็น 6 เหรียญทอง, 11 เหรียญเงิน และ 13 เหรียญทองแดง ผลงานที่โดดเด่นของนักกีฬาไทยในครั้งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการพิสูจน์ถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของนักกีฬาไทยในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ

เงินรางวัลอัดฉีดสำหรับนักกีฬาไทย

กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้เตรียมมอบเงินรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬาไทยที่ทำผลงานได้ตามเป้าหมาย โดยมีเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลดังนี้ - เหรียญทอง รับเงินรางวัล 6,000,000 บาท (จ่ายครั้งเดียว) หรือ 7,200,000 บาท (แบ่งจ่ายโดยรับก่อน 50% และที่เหลืออีก 50% จะจ่ายรายเดือนในเวลา 4 ปี)- เหรียญเงิน รับเงินรางวัล 4,000,000 บาท (จ่ายครั้งเดียว) หรือ 4,800,000 บาท (แบ่งจ่ายโดยรับก่อน 50% และที่เหลืออีก 50% จะจ่ายรายเดือนในเวลา 4 ปี) - เหรียญทองแดง รับเงินรางวัล 2,500,000 บาท (จ่ายครั้งเดียว) หรือ 3,000,000 บาท (แบ่งจ่ายโดยรับก่อน 50% และที่เหลืออีก 50% จะจ่ายรายเดือนในเวลา 4 ปี)การมอบเงินรางวัลอัดฉีดในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาไทย และเป็นการสนับสนุนให้พวกเขาสามารถมุ่งมั่นฝึกซ้อมและพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความสำเร็จในเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป

ผลงานโดดเด่นของนักกีฬาไทยในแต่ละประเภท

นักกีฬาไทยสร้างผลงานอันน่าภาคภูมิใจในการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 โดยมีรายละเอียดดังนี้- เหรียญทอง 6 เหรียญ ได้แก่ พงศกร แปยอ (วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T53), วรวุฒิ แสงอำภา (บอคเซีย บุคคล BC2), ชัยวัฒน์ รัตนะ (วีลแชร์เรซซิงชาย 100 เมตร คลาส T34), สายสุนีย์ จ๊ะนะ (ฟันดาบ เซเบอร์ บุคคลหญิง คลาส B, ฟันดาบ ฟอยล์ บุคคลหญิง คลาส B, ฟันดาบ เอเป้ บุคคลหญิง คลาส B)- เหรียญเงิน 11 เหรียญ ได้แก่ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น-วิจิตรา ใจอ่อน (เทเบิลเทนนิส คู่ผสม คลาส XD7), รุ่งโรจน์ ไทยนิยม-พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ (เทเบิลเทนนิส ชายคู่ คลาส MD14), อธิวัฒน์ แพงเหนือ (วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T54, วีลแชร์ เรซซิ่ง 100 เมตร T54), สุจิรัตน์ ปุกคำ (แบดมินตันหญิงเดี่ยว คลาส WH1), พงศกร แปยอ (วีลแชร์ เรซซิ่ง 100 เมตร T53, วีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตรชาย T53), รุ่งโรจน์ ไทยนิยม (เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS6), วิสิทธิ์ กิ่งมะนาว (ฟันดาบ เอเป้ บุคคล ชาย คลาส B), ชัยวัฒน์ รัตนะ (วีลแชร์เรซซิงชาย 800 เมตร คลาส T34), วันชัย ชัยวุฒิ (เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS4)- เหรียญทองแดง 13 เหรียญ ได้แก่ ขวัญสุดา พวงกิจจา (เทควันโด 47 กก.หญิง คลาส K44), ดารารัตน์ อาสายุทธ์-ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา (เทเบิลเทนนิส หญิงคู่ คลาส WD5), วันชัย ชัยวุฒิ-ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น (เทเบิลเทนนิส ชายคู่ คลาส MD8), สุจิรัตน์ ปุกคำ-อำนวย เวชวิฐาน (แบดมินตัน หญิงคู่ WH1-WH2), วัชรพล วงษา (บอคเซีย บุคคล BC2), มงคล บุญสุน (แบดมินตัน ชายเดี่ยว SL3), ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น (เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว MS3), พรโชค ลาภเย็น-นวลจันทร์ พลศิลา (บอคเซีย ทีมผสม คลาส BC4), กมลพรรณ กระราชเพชร (ยกน้ำหนัก รุ่น 55 กก. หญิง), พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ (เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS8), เฉลิมพงษ์ พันภู่ (เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS7), สายสุนีย์ จ๊ะนะ, เดือน นาคประสิทธิ์, อภิญญา ทองแดง (ฟันดาบ เอเป้ ทีมหญิง), ศศิราวรรณ อินทโชติ (วิ่ง 200 เมตร หญิง คลาส T47)ผลงานอันโดดเด่นของนักกีฬาไทยในการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการพิสูจน์ถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของพวกเขาในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ การได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติจะเป็นแรงผลักดันให้นักกีฬาไทยสามารถพัฒนาตนเองและสร้างความสำเร็จในเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไปในอนาคต