ตำรวจฉกรรจ์ระดมทีมสกัดคนร้ายบ้าคลั่ง หลังก่อเหตุระทึกกลางกรุง

เหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นกลางกรุงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 กันยายน ได้ฉายให้เห็นถึงความเฉียบขาดและความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องเผชิญ โดยมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จากการไล่ล่าและปะทะกับคนร้ายที่ขับรถ 6 ล้อคลั่งไล่ชน

ความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการระงับเหตุ

จนตรอกดับไฟแดงแต่ขับต่อไม่หยุด

ตามรายงาน เมื่อเหตุการณ์เริ่มขึ้น ตำรวจ 4 นาย พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน ได้ไล่ติดตามชายขับรถบรรทุก 6 ล้อซึ่งมีอาการคลั่ง ขับรถวนรอบระหว่างตึกมาลีนนท์บนถนนพระราม 4 ก่อนมุ่งไปยังแยกพระโขนง และกลับมายังตึกมาลีนนท์ จนรถบรรทุกดังกล่าวไปติดไฟแดงที่แยกกล้วยน้ำไท ตำรวจจึงพยายามเข้าไปสกัดกั้น แต่คนขับรถกลับใช้มีดฟันตำรวจที่กำลังเข้าไปยับยั้ง โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

ระดมยิงล้อ ขับปะทะรถพุ่งหนี

เมื่อถูกพยายามสกัดกั้น คนขับรถบรรทุกยังดิ้นรนทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ถูกหยุด โดยข่มขู่ด้วยอาวุธมีดและพยายามขับรถเบียดและออกนอกเส้นทาง จนกระทั่งตำรวจต้องระดมยิงยางรถไปแล้วกว่า 10 นัด เพื่อหยุดยั้งการหลบหนี แต่คนร้ายก็ยังพยายามขับรถต่อไปโดยไม่ยอมหยุดจนสุดท้ายไปชนเข้ากับรถยนต์อื่นที่จอดอยู่

ไล่ยิงจนขึ้นด่านพุ่งหนี

เมื่อรถบรรทุกเกิดอุบัติเหตุจนเสียหลัก ตำรวจจึงมุ่งตามไล่จนคนร้ายขับรถขึ้นทางด่วนอาจณรงค์ หลบหนีไปในเขตสมุทรปราการ ก่อนจะหยุดรถบริเวณโรงเรียนคลองบางน้ำจืด ทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น โดยมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย

เปิดเผยภาพวีรกรรมติดตัวเจ้าหน้าที่

ตำรวจที่เข้าระงับเหตุในครั้งนี้ได้เล่าถึงความกล้าหาญในการเข้าตรวจสอบคนร้าย แม้จะถูกคนร้ายใช้มีดฟัน แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยได้เผยภาพเหรียญพระที่ติดตัวเป็นเครื่องรางของขลัง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและความเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน และความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางอันตราย เพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชน