อีซูซุ MU-X ขับง่าย นุ่มนวล หน้าตาดี

Sep 8, 2024 at 8:44 AM
ชูสมรรถนะกว่าเดิม! MU-X รุ่นใหม่จาก Isuzu สู่การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบภายหลังเปิดตัวมิว-เอ็กซ์ไมเนอร์เชนจ์ 2024 อีซูซุเชิญสื่อมวลชนทดสอบขับขี่รถอเนกประสงค์รุ่นไฮไลท์ "THE NEXT PEAK" บนเส้นทางเชียงราย-เชียงใหม่ พร้อมร่วมกิจกรรมทดสอบสมรรถนะและความสมบูรณ์แบบของรถยนต์ ตอกย้ำความเป็นรถครอบครัวและคู่หูขี่ตะลอนทางไกลที่สมบูรณ์แบบ"สุดยอดความปลอดภัย ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ"

ชูสมรรถนะกว่าเดิม! MU-X รุ่นใหม่จาก Isuzu สู่การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ

สุดยอดความปลอดภัย ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ

ภาพลักษณ์เปลี่ยน ความสมรรถนะอัพเกรด

เพื่อสะท้อนจุดยืนใหม่ของ Isuzu MU-X รุ่นไมเนอร์เชนจ์ 2024 ทางอีซูซุได้เพิ่มทางเลือกรุ่นตกแต่งพิเศษรุ่น RS เป็นรุ่นท็อปสุดของรถกลุ่มนี้ โดยยังคงรุ่น Ultimate, Elegant และ Active มาในการออกแบบที่ทันสมัย ขณะที่สมรรถนะถูกยกระดับผ่านการติดตั้งเครื่องยนต์ Ddi Blue Power เทอร์โบดีเซลทั้ง 3.0 ลิตร แรงม้า 190 หรือ 1.9 ลิตร แรงม้า 150 ให้อรรถรสการขับขี่ที่ฉีกทุกขีดจำกัด

ความหรูหรากระชับมากขึ้น

ทางด้านการปรับเปลี่ยนรุ่น Ultimate คือการเพิ่มทัศนภาพที่โดดเด่นและเด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าสีดำ Titanium Carbide ไฟหน้าหางใหม่แบบ Full LED จับจุดด้วยดีไซน์สปอร์ทด้วย Embrace Line และล้อใหม่ Dynamic Turbine 20 นิ้ว ดีไซน์ตอบสนองให้เกิดซับซ้อนสะกดทุกสายตา ตัวถังยังมีสีใหม่ Eiger Gray Opaque ที่เพิ่มบรรยากาศความหรูหราอีกด้วยภายในโฉบเฉี่ยวมากขึ้นไปอีก ด้วยการดีไซน์ใหม่ในคอนเซปท์ Modern Luxe ที่เน้นความหรูหราเอกลักษณ์ชัด โดยเฉพาะเบาะนั่ง 7 ที่นั่งที่ออกแบบใหม่ พิถีพิถันในการเลือกใช้โทนสีและวัสดุ ควบคู่กับการเพิ่มระบบเทคโนโลยีระดับสูง อาทิ ระบบ Infotainment แบบ 9 นิ้ว, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS Gen.2 ครบครัน จ่อสะกดทุกสิ่งสะกดใจผู้ขับขี่

ตอบรับลู้กค้าครบทุกความต้องการ

ทางอีซูซุเปิดตัว MU-X ในรุ่น ไมเนอร์เชนจ์ 2024 ด้วยการปรับเปลี่ยนทั้งรูปลักษณ์ภายนอก-ภายใน พร้อมอัพเกรดสมรรถนะในด้านต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย นอกจากรุ่น RS ที่เน้นความเด่นชัดแล้ว ยังมีรุ่น Ultimate, Elegant และ Active ให้เลือกที่ตอบโจทย์ได้ตรงใจมากขึ้นมีทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 3.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และเครื่อง 1.9 ลิตรให้ 150 แรงม้า ควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมเฟอร์เธอร์ปรับแต่งแบบเพลิดเพลินด้วยระบบ Rev Tronic และ Paddle Shift มีให้เลือกระบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ สำหรับระบบความปลอดภัย MU-X ยังเพิ่มไฮไลท์สุดล้ำสมัยเข้ามาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องรอบคัน ADAS Gen.2 ที่มีความละเอียดสูงขึ้น พร้อมระบบควบคุมรถไม่ออกนอกเลน, ช่วยควบคุมความเร็ว, แจ้งเตือนจุดอับสายตา ตลอดจนความปลอดภัยตั้งแต่ก่อน และระหว่างการเกิดอุบัติเหตุ มั่นใจทุกการเดินทาง

ความพึงพอใจเหนือกว่าคาดหมาย

ในการขับขี่จริง MU-X ปรับเปลี่ยนไปสู่ความสะดวกสบายมากขึ้น ผ่านการเพิ่มพวงมาลัยไฟฟ้าที่มอบความคล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งในเมืองและนอกเมือง อีกทั้งยังมีความนุ่มนิ่มในการหยุดและออกตัว ขณะที่ช่วงล่างใหม่ยังให้ความนุ่มสบายสำหรับการวิ่งบนเส้นทางปกติ และมีการกระเด็งเล็กน้อยเมื่อต้องเจอพื้นผิวขรุขระ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของรถในกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนการวิ่งเข้าโค้งกลับรู้สึกมั่นใจ เสถียร ไม่มีอาการโยนย้วยให้ท้องรถแสดงออกอะไร ขับเคลื่อนในเมืองและทางด่วนได้อย่างราบรื่น โดยขั้นตอนการทดลองขับมิว-เอ็กซ์ในครั้งนี้ เริ่มจากการเดินทางโดยรถ MU-X รุ่น Ultimate จากเชียงราย สู่เชียงใหม่ ผ่านเส้นทางที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ถนนเปียกจากสภาพอากาศ และในเมืองบนท้องถนน ซึ่งทำให้รับรู้ถึงคุณค่าการตกแต่งเพิ่มเติม ดีไซน์ที่ร่วมสมัยในรถรุ่นนี้ พร้อมระบบเซฟตี้ขั้นสูง และสมรรถนะที่ดีเยี่ยมดังที่เห็นในวิดีโอตลอดการขับขี่ ต่อมาทางอีซูซุยังมีกิจกรรมให้สื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลองชิมอาหารและเครื่องดื่มที่ร้าน Firefly Factory ซึ่งผสมผสานดิจิทัลอาร์ตสวยงามแปลกตา หรือกิจกรรม Tea Blending สนุกสนานในการผสมชาและสมุนไพรเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกใจ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้นอกจากจะเพิ่มความประทับใจแก่สื่อมวลชนแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความสมบูรณ์แบบของผลิตภัณฑ์ MU-X ในฐานะรถอเนกประสงค์ที่ครอบคลุมความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์อีกด้วย