แฉพฤติกรรมแปลกของพระสงฆ์ที่ขับรถล่อแหลมใต้สะพานสถานีรังสิต

เหตุการณ์น่าสงสัยของพระสงฆ์รูปหนึ่ง ที่เดินขึ้นรถเก๋งขาวใต้สะพานสถานีรถไฟรังสิต และเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถก่อนขับออกไป กลายเป็นประเด็นฮอตในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้พบเห็นเหตุการณ์นี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และได้บันทึกภาพวิดีโอเผยแพร่ออกไป ชวนให้ชาวเน็ตต่างเคาะกะโหลกร่วมกันหาความจริงอยู่ไม่น้อย

เบื้องหน้าซ่อนความลวงใต้สะพานข้ามทางรถไฟ

เบาะแสจากไรเดอร์ท้องถิ่น

จากการสอบถามของผู้สื่อข่าวกับนางสาวศิริวิมล สงวนนามสกุล อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในไรเดอร์ที่ได้พบเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของพระสงฆ์รูปนี้ตั้งแต่ช่วงเข้าพรรษา เผยว่า บริเวณใต้สะพานทางข้ามรถไฟ ถนนรังสิตปทุมธานี 31 ใต้จุดกลับรถ เป็นจุดที่ไรเดอร์มักจอดรถหยุดพักระหว่างส่งสินค้า และได้สังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของพระสงฆ์รูปหนึ่ง ที่มักจะมาขับรถเก๋งสีขาวมาจอดที่จุดนี้เป็นประจำโดยในช่วงที่ได้เห็น พระรูปนี้จะเปลี่ยนชุดจีวรบนรถ และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยตามที่ไรเดอร์ท้องถิ่นเล่า พระรูปนี้มักจะมาจอดที่บริเวณนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งบางคนระบุว่าเห็นตั้งแต่ช่วง 4-5 โมงเช้าแล้ว และจะอยู่ที่นั่นจนช่วงเย็น ก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับรถออกไป โดยมักจะไม่มีคนขับด้วย พฤติกรรมแปลกๆ ของพระรูปนี้ ทำให้หลายคนรู้สึกสงสัยว่าเขาไปไหนและทำอะไร ทั้งที่เป็นพระที่ควรอยู่วัดเป็นหลัก แต่กลับมาแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถที่จอดอยู่ใต้สะพานแห่งนี้เป็นประจำ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าในบางครั้ง พระรูปนี้จะเปลี่ยนจากชุดจีวรเป็นเสื้อผ้าแบบอื่น ก่อนที่จะขับรถออกไป

อะไรคือจุดประสงค์ที่แท้จริง?

จากการพิจารณาพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของพระรูปนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า เขาไปไหนและทำอะไรในช่วงเวลาดังกล่าว? และข้อสงสัยคือ การที่พระเปลี่ยนชุดจีวรบนรถในบริเวณสาธารณะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และอาจสร้างความเสื่อมศรัทธาต่อผู้เห็นเหตุการณ์ด้วยจากการสอบถามไรเดอร์ในพื้นที่ พบว่า พวกเขาสงสัยมานานแล้วว่า เขาไปไหนและทำอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดหรือไม่ เพราะไม่กล้าที่จะเข้าไปสอบถามหรือติดตาม เพราะอาจจะได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบและหาความจริงให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อสถาบันสงฆ์

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

กรณีที่มีการพบเห็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของพระสงฆ์ในลักษณะที่อาจขัดต่อหลักธรรม หรืออยู่นอกเหนือการยึดมั่นในปฏิบัติกิจของวัด อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันสงฆ์ในภาพรวมอีกทั้ง หากต่อไปจะมีการรายงานพบเห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัยของพระสงฆ์เพิ่มมากขึ้น อาจจะทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในคณะสงฆ์ และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์โดยรวมของพระภิกษุสงฆ์ในสายตาของประชาชนได้ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดประเด็นทางกฎหมายและจริยธรรมตามมาด้วยดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ควรได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบและเป็นธรรม เพื่อให้ความจริงถูกเปิดเผยออกมา และหากพบว่ามีการกระทำที่ผิดปกติ จะได้มีการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที เพื่อรักษาเกียรติและศรัทธาของสถาบันสงฆ์ให้คงอยู่ตลอดไป