ภาพยนตร์ไทย "หลานม่า" สร้างความสั่นสะเทือนในอุตสาหกรรมบันเทิงจีน

ภาพยนตร์ไทยเรื่อง "หลานม่า" ได้สร้างความโด่งดังอย่างมหาศาลในตลาดจีน หลังจากเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วแผ่นดินใหญ่เมื่อวันศุกร์ (23 ส.ค.) และทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทะลุ 30 ล้านหยวน หรือราว 150 ล้านบาท ภายในเพียง 3 วัน นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้ และยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างวัฒนธรรมจีนและไทย

ภาพยนตร์ไทยที่เข้าถึงใจชาวจีนอย่างลึกซึ้ง

ความรู้สึกอุ่นใจที่คล้ายคลึงกัน

ชาวเมืองหนานหนิงอย่างเฉินเย่ว์ชื่นชมว่า รูปแบบการเล่าเรื่องที่สงบและอบอุ่นของ "หลานม่า" ได้ส่งผลให้เขาหวนนึกถึงความทรงจำที่มีกับครอบครัว และเมื่อได้เห็นการตีแผ่ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว รวมถึงประเด็นทางสังคมที่ถูกนำเสนออย่างแยบคายนั้น ก็ชวนให้เขาได้ขบคิดตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่ามันเป็นเรื่องราวของตัวเองเลยทีเดียว

การสะท้อนความสัมพันธ์แบบเอเชียตะวันออก

ภาพยนตร์เรื่อง "หลานม่า" ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์และความผูกพันในครอบครัวแบบเอเชียตะวันออก ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าของครอบครัว ความกตัญญู และการเคารพผู้อาวุโส โดยผ่านตัวละครอาม่าที่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว ซึ่งคุ้นเคยกับวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การฟังเพลงกล่อมเด็กภาษาแต้จิ๋ว และการปัดกวาดสุสานในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง ภาพเหล่านี้ช่วยให้ผู้ชมชาวจีนเข้าใจและรู้สึกคุ้นเคยกับเนื้อหาของภาพยนตร์มากขึ้น

การสร้างสะพานเชื่อมวัฒนธรรมจีน-ไทย

ภาพยนตร์ไทยเรื่อง "หลานม่า" ยังได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างวัฒนธรรมจีนและไทย โดยผ่านการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับชาวจีนโพ้นทะเลจากเมืองแต้จิ๋วและวัฒนธรรมการจัดงานศพของชาวจีนตอนใต้ ซึ่งช่วยเพิ่มความคุ้นเคยและความรู้สึกเข้าถึงเนื้อหาในตัวภาพยนตร์ รวมถึงการสื่อถึงการรักษาและสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวจีนโพ้นทะเลในต่างแดน

ปรากฏการณ์สร้างสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทยได้มีบทบาทสำคัญในการสานสัมพันธ์ของประชาชนสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผยแพร่ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ซึ่งได้สร้างเป็นสะพานเชื่อมทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างกัน อาทิ ภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ฉลาดเกมส์โกง" ที่ได้กวาดรายได้จากการเข้าฉายในจีนถึงกว่า 1.35 พันล้านบาท นอกจากนี้ ผลงานทางบันเทิงเหล่านี้ยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เสื้อผ้า ขนม และผลไม้ อีกด้วย