ช่วยด่วน! น้ำป่าไหลท่วมท้องถิ่นเชียงราย ฝนตกหนักกว่าปกติ ทำให้รถตู้นักเรียนติดอยู่กลางน้ำ และมีผู้ติดค้างในตึกหลายสิบคน

เหตุการณ์ฉุกเฉินได้เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เมื่อฝนตกหนักอย่างกะทันหันส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว และทำให้มีนักเรียนกว่า 100 คนติดอยู่ในโรงเรียน และมีรถตู้นักเรียนหนึ่งคันติดอยู่กลางน้ำที่ลึกมาก ในขณะที่ยังมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่งที่ติดค้างอยู่ในตึกเนื่องจากน้ำท่วมขึ้นสูง

เชียงรายประสบภัยจากพายุฝน น้ำป่าไหลหลาก สร้างความเสียหายทั่วพื้นที่

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย

ฝนตกหนักในจังหวัดเชียงรายส่งผลกระทบต่อพื้นที่หลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอำเภอเวียงแก่น ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็วและฉับพลัน ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนและสถานที่ต่างๆ อย่างมาก นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีนักเรียนจำนวนกว่า 100 คนติดอยู่ในโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคมเนื่องจากถูกน้ำท่วมขัง และไม่สามารถเดินทางออกมาได้ โดยมีครูคอยดูแลและหาอาหารเลี้ยงนักเรียน

รถตู้นักเรียนติดอยู่กลางน้ำ

นอกจากนักเรียนที่ถูกน้ำท่วมขังในโรงเรียนแล้ว ยังมีรายงานว่ามีรถตู้นักเรียนหนึ่งคันที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์น่ากลัวขณะกำลังขับพานักเรียนกลับบ้าน โดยรถตู้คันดังกล่าวไปติดอยู่กลางน้ำที่ไหลเชี่ยวและลึกมาก จนไปต่อไม่ได้ ทำให้ทั้งนักเรียนและครูต่างตกใจและแตกตื่น โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ที่ร้องไห้ด้วยความกลัว ก่อนจะมีผู้ช่วยเหลืออุ้มนักเรียนไปประจำอยู่บนสันดอนใกล้ๆ เพื่อรอเรือมารับพวกเขาไปยังอีกฝั่ง และประสานให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้าน

ผู้ติดค้างในตึกต้องการความช่วยเหลือด่วน

ในขณะเดียวกัน ยังมีการรายงานถึงสถานการณ์วิกฤตอีกแห่งในตำบลสามแยกหล่ายงาว อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย โดยมีคนติดค้างอยู่ในตึกประมาณ 30 คน ซึ่งรวมทั้งเด็กและสตรี ซึ่งผู้ติดค้างต้องการความช่วยเหลือด่วนจากหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ เนื่องจากน้ำท่วมสูงมาก จนไม่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองได้ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของสภาพอากาศและพายุฝนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ต่างๆ และส่งผลกระทบต่อประชาชนและเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก ดังนั้น การเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบป้องกันและจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น