SAIC เตรียมเปิดตัวแบตเตอรี่ semi-solid-state ภายใต้แบรนด์ MG ภายในปี 2025

Sep 8, 2024 at 3:45 PM

แบตเตอรี่ Solid-State กับการเปลี่ยนแปลงวงการรถไฟฟ้าทั่วโลก

ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงยิ่งขึ้น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State นับเป็นหนึ่งในจุดสนใจหลักของภาคยานยนต์ เพราะอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับรถไฟฟ้าให้ก้าวล้ำหน้ากว่าเดิม

ก้าวต่อไปของวงการรถไฟฟ้าในอีก 10 ปีข้างหน้า

ความเคลื่อนไหวของผู้ผลิตรถยนต์ในการพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State

แม้บริษัทรถยนต์ชั้นนำต่างๆ อย่าง BMW และ Toyota จะมีแผนการเปิดตัวแบตเตอรี่ Solid-State ในอีกหลายปีข้างหน้า แต่ความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังมีระยะทางอีกไม่ใกล้ที่จะพร้อมใช้งานจริง ส่วนใหญ่จะเป็นไปในช่วงใกล้ปี 2030 เป็นต้นไป ขณะที่ SAIC กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน เป็นหนึ่งในบริษัทที่เร่งพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State และได้นำเทคโนโลยี semi-solid-state มาใช้ในรถยนต์รุ่น IM L6 ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในเร็วๆ นี้

ความสามารถเหนือกว่าของแบตเตอรี่ Solid-State

แบตเตอรี่ Solid-State สามารถเก็บพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันถึง 2 เท่า ซึ่งหมายความว่ารถที่ใช้แบตเตอรี่ Solid-State จะสามารถวิ่งได้ไกลกว่าเดิม หรือสามารถใช้ขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กลงแต่ระยะทางยังคงเท่าเดิม นอกจากนี้ แบตเตอรี่ Solid-State ยังมีความปลอดภัยสูงขึ้น เนื่องจากใช้สารแข็งแทนของเหลวในการนำไฟฟ้า ทำให้ลดความเสี่ยงเรื่องการรั่วไหลและการระเบิด

ความท้าทายในการพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State

แม้แบตเตอรี่ Solid-State จะมีศักยภาพสูงและคาดว่าจะปฏิวัติวงการรถไฟฟ้าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ก็ยังคงมีความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านต้นทุนการผลิตและการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งผู้ผลิตต้องเร่งวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เทคโนโลยีพร้อมสำหรับการใช้งานจริงในเร็วที่สุด

แบรนด์รถยนต์ที่จะเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยี Solid-State

ขณะนี้ SAIC เป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยี semi-solid-state มาใช้ในรถยนต์รุ่น IM L6 ซึ่งสามารถขับขี่ได้ไกลเกิน 1,000 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC และมีความเร็วในการชาร์จที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะกรณีที่เทียบกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบปัจจุบัน ส่วนแบรนด์รถอื่นๆ ภายใต้เครือ SAIC ที่จะติดตั้งเทคโนโลยีแบบเดียวกันนี้ ได้แก่ MG ในปี 2025 ซึ่งจะเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้า