เหตุการณ์ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 'น้องหญิง' ผู้นำสำนักคลื่นพลังบุญถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ภายใต้ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ การจับกุมดังกล่าวได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับชุมชนที่ติดตามและเชื่อมั่นในพลังของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน ลูกศิษย์ของเธอได้รวบรวมหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวเธอออกมา และนับจากนั้น 'น้องหญิง' ได้เริ่มต้นการออกรายการโทรทัศน์เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ โดยมี 'อาจารย์ชาย' และสาวกคอยสนับสนุน
การปรากฏตัวของเธอในสื่อมวลชนได้เป็นการกระตุ้นให้เกิดการสนทนาและการถกเถียงในหมู่ประชาชน ทั้งผู้ที่สนับสนุนและคัดค้าน การเคลื่อนไหวของเธอและทีมงานได้เป็นประเด็นร้อนที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีได้ตอบสนองต่อสถานการณ์ด้วยการออกหนังสือด่วนที่สุด ซึ่งสั่งให้สำนักคลื่นพลังบุญหยุดกิจกรรมการรักษาโรคทันที คำสั่งนี้มีพื้นฐานมาจากการที่สำนักดังกล่าวไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนหรือได้รับอนุญาตให้ดำเนินการรักษาโรคอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การประกาศคำสั่งห้ามนี้ได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเป็นการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนที่เชื่อมั่นในการรักษาด้วยวิธีนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังแดนธรรมสุขขาววะดี พบว่าทั้ง 'น้องหญิง' และ 'อาจารย์ชาย' รวมถึง 'พี่โดม' ตัวแทนของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ไม่ปรากฏตัว ที่พบเห็นเพียงพระสงฆ์สองรูปและชาวบ้านสองคนที่กำลังช่วยกันขุดร่องน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมหลังฝนตกหนัก
พระกิตติเดช บุญเต็ม หนึ่งในพระสงฆ์ที่พบ ได้เปิดเผยว่าเขาและพระอีกรูปมาจากจังหวัดนครราชสีมาและจำพรรษาอยู่ที่นี่มาสองปีแล้ว พระกิตติเดชยังไม่ได้เห็นหนังสือคำสั่งห้ามแต่ได้ทำการปิดทับคำว่า 'รักษาโรค' ด้วยสก๊อตเทปเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งในเบื้องต้น
ในขณะที่ 'น้องหญิง' และ 'อาจารย์ชาย' ยังไม่ได้กลับมายังสำนัก พระกิตติเดชได้หารือกับชาวบ้านและเจ้าของที่ดินเกี่ยวกับแผนการขออนุญาตให้แดนธรรมสุขขาววะดีเป็นสำนักสงฆ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การเคลื่อนไหวนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวและการค้นหาทางออกที่สอดคล้องกับกรอบของกฎหมาย
การพัฒนาสถานการณ์นี้ยังคงเป็นที่จับตามองของสาธารณชน และเป็นตัวอย่างของการท้าทายระหว่างความเชื่อทางจิตวิญญาณกับข้อกำหนดทางกฎหมายที่มีอยู่