‘เลนส์ภาพยนตร์’ บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ และภาพสะท้อนร่วมสมัย

Aug 31, 2024 at 10:45 AM
Slide 3
Slide 1
Slide 2
Slide 3
Slide 1
ดาวท้องฟ้าพื้นที่ปลอดภัย: ภาพยนตร์และซีรีส์ในยุคความขัดแย้งทางธรรมชาติในช่วงต้นปี 2024 นี้ ภาพยนตร์และซีรีส์จำนวนมากได้ถูกนำมาจัดฉายในโรงภาพยนตร์และสตรีมมิง โดยหลายเรื่องได้หยิบยกเรื่องราวในอดีตที่มีความวิกฤต และสื่อสารถึงผลกระทบในปัจจุบันที่เกิดจากความขัดแย้งทางธรรมชาติ

ภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์ที่ท้าทายสถานการณ์โลกปัจจุบัน

การฟื้นฟูเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

ภาพยนตร์และซีรีส์เรื่อง Gyeongseong Creature, Exhuma, The Zone of Interest และ 3 Body Problem เป็นตัวอย่างของผลงานที่ออกฉายในช่วงต้นปี 2024 ซึ่งต่างก็เล่าเรื่องราวจากอดีต โดยสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน การสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ก็เสมือนเป็นการเปิดโปงและทบทวนประวัติศาสตร์อันมืดหม่น เพื่อเตือนสติผู้ชมต่อสถานการณ์โลกที่มีแนวโน้มของความตึงเครียดและความขัดแย้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์ยังคงเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและเผยแพร่ความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อการเข้าใจสถานการณ์โลกในปัจจุบัน

การใช้ภาพยนตร์เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ

การใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมอุดมการณ์ทางการเมืองและความชาตินิยมนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง คือ ภาพยนตร์เรื่อง "Casablanca" (1942) และซีรีส์ "Why We Fight" (1942-1945) ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเป็นเอกภาพของคนในชาติและเสริมขวัญกำลังใจให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร ล่าสุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก็ปรากฏภาพยนตร์ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของโฆษณาชวนเชื่อ เช่น "Crimea" (2014) ที่สนับสนุนการผนวกไครเมียของรัสเซีย และ "Wolf Warrior 2" (2017) ที่สะท้อนถึงความเข้มแข็งและความเหนือกว่าของจีนในเวทีโลก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลจีนในการฟื้นฟูประเทศ ข้อเท็จจริงเหล่านี้ทำให้เห็นว่า ภาพยนตร์ยังคงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

การสร้างความเข้าใจที่บิดเบือนผ่านสเตอริโอไทป์

นอกจากการใช้ภาพยนตร์เพื่อเป้าหมายทางการเมืองแล้ว การนำเสนอตัวละครต่างเชื้อชาติในบทบาทที่ลดทอนคุณค่าและสร้างความเข้าใจที่ผิดเพี้ยนก็เป็นอีกประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น การกำหนดให้ตัวละครจากตะวันออกกลางเป็นผู้ก่อการร้าย หรือตัวละครเอเชียเป็นคนก่อปัญหา ซึ่งประเด็นเหล่านี้ได้ถูกสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เกิดความรู้สึกต่อต้านชาวเอเชีย ลักษณะการบิดเบือนความจริงเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัฒนธรรม แต่ยังก่อให้เกิดทัศนคติแบบเหมารวมที่อันตรายต่อสังคมโลก แม้ว่าจะมีภาพยนตร์อย่าง "Black Panther" (2018) ที่ได้รับการชื่นชมในการนำเสนอวัฒนธรรมแอฟริกันในเชิงบวก แต่ก็ยังมีภาพยนตร์อื่น ๆ ที่คงยังคงนำเสนอทวีปแอฟริกาผ่านมุมมองของความยากจนและความขัดแย้ง

ภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์เป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง

แม้ว่าภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์จะสามารถใช้ในการส่งเสริมอุดมการณ์และความชาตินิยม หรือสร้างความเข้าใจที่บิดเบือนต่อกลุ่มคนบางกลุ่มได้ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง มันก็สามารถเป็นพลังในการสร้างความตระหนักรู้และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในทิศทางที่ดีได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น สารคดี "The Social Dilemma" (2020) ที่สำรวจประเด็นการเสพติดโซเชียลมีเดียและการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้งาน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงและค้นหาแนวทางการกำกับดูแลอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม หรือภาพยนตร์ "Seaspiracy" (2021) ที่เปิดเผยถึงความเสียหายของการประมงที่มากเกินไปต่อระบบนิเวศทางทะเล จนนำไปสู่การเรียกร้องให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอย่างยั่งยืนดังนั้น ภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์จึงมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นความคิด เพิ่มความตระหนัก และตอกย้ำสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ทั้งในแง่การใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและการสร้างความเข้าใจที่บิดเบือน รวมถึงการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี หรือความยุติธรรมทางสังคม ภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์จึงมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสังคมโลก