จับได้แล้ว! หนุ่มรถบรรทุกคลั่งไล่ชนดะ โดดน้ำ-ผูกคอในท่อ หวังหนีความผิด

Sep 4, 2024 at 11:10 AM

ตำรวจสอบจับคนร้ายหวังหลบหนีความผิด กลับกลายเป็นตกใจจนคลั่งไล่ชนรถอื่น

เหตุการณ์การขับรถชนผู้อื่นและหลบหนีของคนร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ กลายเป็นประเด็นที่สร้างความสนใจให้กับสาธารณชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการกระทำที่น่าสะพรึงกลัวของคนร้ายดังกล่าว ถูกพบว่ามีสาเหตุมาจากความตื่นตระหนก กลัวถูกจับกุม จึงไม่คิดชั่งน้ำหนักก่อนลงมือ ส่งผลให้เกิดความเสียหายและการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัว ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมที่มีกฎหมายบัญญัติไว้อย่างชัดเจน

ชน-หลบ-รุมล้อม-ขึงคอ-ในที่สุดก็โดนจับ

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 74-3380 กรุงเทพมหานคร มีการเฉี่ยวชนกับผู้ใช้รถใช้ถนนอื่น ก่อนที่คนขับรถจะหลบหนีไปด้วยอัตราเร่งสูง จนเกิดความเสียหายกับรถยนต์อื่นๆ และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย หลังจากรถบรรทุกหลบหนีไปตามตะเข็บทางด่วน คนขับรถยังไม่หยุดความระทึกใจ แต่ยังคงขับรถต่อเนื่องไปยังพื้นที่อื่นๆ ในจังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั่งมาหยุดรถบริเวณโรงเรียนคลองบางน้ำจืด ที่นั่น คนขับกล้าขึ้นมากว่าเดิม จนกระทั่งกระโดดลงไปในคลองใกล้ๆ โรงเรียน โดยนำเชือกมาผูกคอ หวังหนีความผิดหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมพื้นที่ จับกุมคนขับรถได้สำเร็จ พบว่าเป็นนายวัลลภ ศรีสูงเนิน อายุ 43 ปี ซึ่งอาการยังสาหัส จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษา ก่อนจะนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เหยื่อรายหนึ่งไม่รอด

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้มีผู้ได้รับความเสียหายจากการขับรถชนของคนร้ายอย่างร้ายแรง คือ นายประวิทย์ อายุ 39 ปี อาชีพวินจยย.รับจ้าง ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิตต่อมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

เหตุใดคนร้ายจึงแสดงพฤติกรรมน่ากลัวเช่นนี้

จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า คนร้ายมีพฤติกรรมกลัวถูกจับกุม จึงตัดสินใจใช้ความรุนแรงเพื่อหนีหลบหนี แม้จะส่งผลให้เกิดความเสียหายและการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ซึ่งอาจเป็นเพราะตระหนักในความผิดที่กระทำไว้ และไม่อยากรับผิดชอบ แต่กลับเลือกที่จะสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นมากกว่า

บทเรียนจากเหตุการณ์ ควรนำมาใช้ในการป้องกันปัญหาคล้ายกันในอนาคต

เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นปัญหาสังคมที่ต้องร่วมกันแก้ไข โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางราชการ และภาคสังคม ต้องร่วมมือกันเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาเช่นนี้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจับกุม การเสริมสร้างความตระหนักรู้ในกฎหมายให้กับประชาชน หรือการมีมาตรการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอย