ชีวิตไม่คู่ควรถูกล่วงละเมิด: พบร่องรอยจุดอ่อนทางเพศบนรถรับ-ส่งนักเรียน นำมาสู่ความเสียหายที่ลึกซึ้งกว่าที่คาด

ความผิดหวังและความหวั่นเกรงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อความน่าเชื่อถือที่เคยมีถูกทลายไป หลังเด็กนักเรียนถูกกระทำล่วงละเมิดทางกายภาพ ทั้งที่ควรได้รับความปลอดภัยและความเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ชีวิตซึ่งควรจะมีคุณค่ายิ่ง ถูกมองข้ามและกระทบกระเทือนไปพร้อมกัน

เมื่อความเชื่อมั่นถูกคว่ำ, การกระท�าอันทรงพลังมาถึง

เบื้องหลังการกล่าวหาคนขับรถรับ-ส่งนักเรียน

น.ส.ตา อายุ 41 ปี แม่ของ ด.ญ.ข้าวหอม นักเรียนชั้น ม.2 ได้เข้ารับการเดินทางมายังศูนย์ด�ารงธรรมจังหวัดอุดรธานี เพื่อยื่นข้อร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ระหว่างที่ลูกสาวก�าลังเดินทางไปโรงเรียนน.ส.ตา กล่าวว่า ตนได้ว่าจ้างนายสน อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนประจ�าของลูกสาวมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ระหว่างเดินทางในเช้าวันที่เกิดเหตุ เมื่อรถตู้เหลือเพียงนายสนกับ ด.ญ.ข้าวหอมอยู่บนรถ และก�าลังแล่นเข้าใกล้โรงเรียน นายสนได้ใช้มือซ้ายล้วงเข้าไปในเสื้อของลูกสาวแล้วลูบไล้บริเวณหน้าอก โดย ด.ญ.ข้าวหอมได้พยายามผลักมือของนายสนออกและบอกว่า "อย่ามาท�าแบบนี้กับหนู หนูโตแล้ว ท�าแบบนี้กับหนูไม่ได้" จากนั้นเมื่อถึงโรงเรียน ด.ญ.ข้าวหอมก็รีบเปิดประตูรถวิ่งเข้าไปในโรงเรียน ด้วยความตกใจและกลัวน.ส.ตา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดวันที่เกิดเหตุ ลูกสาวร้องไห้ตลอดเวลา ระหว่างที่ก�าลังซ้อมกีฬาวอลเลย์บอลกับเพื่อน เพื่อนของลูกสาวจึงรู้เรื่องทั้งหมดและแจ้งให้ตนทราบในตอนเย็น ท�าให้ตนรีบโทรถามลูกสาว ซึ่งลูกก็เล่าให้ฟังอย่างละเอียด เมื่อตนรับทราบเหตุการณ์ จึงได้รีบโทรศัพท์หาแม่เพื่อให้มาพูดคุยกับนายสนด้วย โดยตนเองได้ลงไปพูดคุยกับนายสน ซึ่งนายสนก็ยอมรับว่าได้กระท�าเช่นนั้นจริง แต่อ้างว่าเป็นเพราะความเอ็นดูลูกหลานเหมือนกัน และพร้อมที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระท�าลงไป อย่างไรก็ตามน.ส.ตา ก็ยืนยันว่าจะเอาเรื่องนี้จนถึงที่สุด เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผู้อื่นอีกต่อไป

เสาะหาความยุติธรรม และแก้ไขปัญหา

ต่อมา น.ส.ตา ได้น�า ด.ญ.ข้าวหอม เข้าพบ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็ได้พบ พ.ต.ท.ธีรภาพ ภูขันซ้าย สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ในที่ประชุม ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้กำชับให้ ด�าเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะออกหมายเรียกให้นายสนมาเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อด�าเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

การแก้ไขปัญหาและแสวงหาแนวทางปูองกัน

น.ส.ตา กล่าวว่า ตนเองเคยท�างานเป็นพยาบาล และอยู่ในกรุงเทพฯ มาก่อน แต่ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่ จ.อุดรธานีเมื่อลูกสาวเรียน ม.1 ส่วนลูกสาวได้อาศัยอยู่กับยายก่อน ต่อมาตนจึงมาอาศัยอยู่ด้วยเมื่อไม่นานมานี้ และท�าสวนอยู่ที่ อ.หนองแสง ตนได้ว่าจ้างนายสนมาเป็นคนขับรถรับ-ส่งลูกสาวไปโรงเรียนมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว โดยมีเพื่อนบ้านแนะน�า ส่วนต่อไปนั้นตนก็ตั้งใจจะหารถรับ-ส่งลูกสาวคนอื่นมาเป็นทางเลือกเพิ่มเติมทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายสน เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม นายสนได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่ยืนยันว่าเป็นกรณีเข้าใจผิด และจะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในภายหลัง