16 ปีที่รอคอย “วันชัย” เผยเคยท้อแท้ ก่อนได้เหรียญพาราลิมปิกหนแรก คว้า 2 เหรียญปารีส 2024
Sep 8, 2024 at 5:05 AM
จากก้อนกรวดสู่เหรียญเงินแห่งความภาคภูมิใจ: เรื่องราวการเปลี่ยนผ่านของ "ขวด" วันชัย ชัยวุฒิ
ในการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ที่ปารีส "ขวด" วันชัย ชัยวุฒิ นักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย ผู้ที่เคยผ่านการต่อสู้ในชีวิตมามากมาย ได้ประสบความสำเร็จอย่างสมใจโดยการคว้าเหรียญเงินในประเภทชายเดี่ยว คลาส MS4 หลังจากที่ไม่เคยได้เหรียญมาก่อนในการแข่งขันพาราลิมปิกถึง 3 ครั้งที่ผ่านมาเรื่องราวความยากลำบากสู่ความภาคภูมิใจ
ท้าทายความเป็นไปได้กับเหรียญโอลิมปิกครั้งแรก
ในการแข่งขันครั้งนี้ วันชัย ชัยวุฒิ วัย 35 ปี ได้เปิดเผยว่า นี่เป็นครั้งแรกในการคว้าเหรียญเงินในพาราลิมปิกให้กับตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยได้เหรียญทองแดงในประเภทชายคู่ คลาส MD8 มาแล้ว แต่ด้วยความตั้งใจและไฟในใจที่ขับเคลื่อนเขามาจนถึงจุดนี้ ทำให้ "ขวด" สามารถกลับมาสู้ในการแข่งขันครั้งนี้ได้สำเร็จ"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เหรียญชายเดี่ยวเหรียญเงิน ผมก็รู้สึกดีใจ แล้วก็ภาคภูมิใจในทีมงานโค้ช ทีมงานผู้บริหาร แล้วก็ทีมงานผู้ใหญ่ที่คอยซัพพอร์ตเราอยู่ข้างหลังอีกหลายๆ ท่านครับผม" วันชัยกล่าวเปิดใจหลังเดินสายแข่งขันถึง 16 ปี
วันชัย เปิดเผยว่า การที่เขาจะมาถึงวันนี้ได้นั้น ต้องผ่านบททดสอบมากมายที่ไม่ง่ายเลย เขาประมาณว่าการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ในชีวิตของเขา และใช้เวลาถึง 16 ปีในการสร้างความสำเร็จครั้งนี้"ผมไปแข่งพาราลิมปิกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งก็ประมาณ 16 ปี ผมก็ท้อแท้เหมือนกัน แต่ผมก็ยังกลับมาสู้ มาฝึกฝนตัวเอง บวกกับทีมงานโค้ช ทีมงานผู้ฝึกสอน ทีมงานผู้บริหาร ทีมงานผู้ใหญ่ที่คอยซัพพอร์ต เคยเติมเต็มให้เรากลับมาสู้ บวกกับครอบครัวที่ช่วยผลักช่วยดันให้ผมมีทุกวันนี้ ผมก็อยากจะขอบคุณทุกๆ ฝ่ายมากๆ ครับ"วันชัยกล่าววา่เขาเคยรู้สึกท้อแท้และผิดหวังมามากในการลงแข่งขันพาราลิมปิก แต่การได้รับกำลังใจจากครอบครัวและทีมงานที่คอยสนับสนุน ทำให้เขาสามารถลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าเหรียญเงินผลงานสะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจ
โดยในการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ที่ปารีส ผลงานของทีมชาติไทยสร้างชื่อเสียงด้วยการคว้ารวม 30 เหรียญ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของทีมไทย นอกจากเหรียญเงินของวันชัยแล้ว ยังมีเหรียญทองและเหรียญทองแดงในหลายกีฬา อาทิ วีลแชร์ฟันดาบ, วีลแชร์เรซซิ่ง, บอคเซีย, กรีฑา, เทเบิลเทนนิส, แบดมินตัน, เทควันโด และยกน้ำหนัก"ถึงจะเสียดายแต่ก็ไม่เสียใจ ก็ถือว่าภาคภูมิใจตัวเองแล้วครับ ชีวิตผมกว่าจะมาถึงทุกวันนี้มันไม่ง่ายเลยครับ มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ผมมีแต่เจอขวากหนามทั้งนั้นกว่าจะมาถึงจุดนี้" วันชัยกล่าวด้วยความภาคภูมิใจความมุ่งมั่นและการทำงานหนักของนักกีฬาทีมชาติไทยในพาราลิมปิกครั้งนี้ สะท้อนถึงความสามารถและความพยายามที่แท้จริงในการสร้างผลงานระดับโลก อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ที่กำลังเดินตามความฝันของตัวเอง