เตรียมรับศึกใหม่! ซูบารุไทยเดินหน้าสู่ยุครถนำเข้า CBU พร้อมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2025

ล่าสุด TC Subaru (ประเทศไทย) ได้ประกาศแผนปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ โดยจะก้าวเข้าสู่ยุคนำเข้ารถยนต์ครบชุด (CBU) จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด Forester e-BOXER Hybrid และ Crosstrek e-BOXER Hybrid ในช่วงต้นปี 2025 เพื่อยกระดับคุณภาพและความเป็นต้นฉบับให้กับผู้ใช้รถคนไทย

ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของซูบารุในประเทศไทย

### การปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบธุรกิจแบบ CBUก่อนหน้านี้ TC Subaru ได้ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นการจำหน่ายรถยนต์ประกอบในประเทศ (CKD) เป็นหลัก แต่ล่าสุดได้ประกาศเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจใหม่ โดยจะเน้นการนำเข้ารถยนต์ครบชุด (CBU) จากญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของการดำเนินธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทให้เหตุผลถึงการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ว่า จะช่วยให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับต้นฉบับจากประเทศผู้ผลิต### เปิดตัวรถรุ่นใหม่ในปี 2025ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ล่าสุด TC Subaru ยังได้เผยแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในปี 2025 โดยจะประเดิมด้วย 2 รุ่น ได้แก่ All NEW Subaru Forester e-BOXER Hybrid และ All NEW Subaru Crosstrek (XV) e-BOSER Hybrid ซึ่งทั้งสองรุ่นจะถูกนำเข้ามาในรูปแบบ CBU จากประเทศญี่ปุ่นนอกจากนี้ ในปีเดียวกัน TC Subaru ยังมีแผนจะเสริมทัพด้วยรถยนต์รุ่นอื่น ๆ อีกหลายรุ่น อาทิ Subaru Outback (Minor change), Subaru WRX และ Subaru BRZ (MY2024) ซึ่งล้วนแต่เป็นรถที่จะถูกนำเข้ามาในรูปแบบ CBU จากญี่ปุ่นทั้งสิ้น### ขุมพลังเทคโนโลยีล้ำสมัย e-BOXER Hybridทั้ง Subaru Forester e-BOXER Hybrid และ Subaru Crosstrek e-BOXER Hybrid ใหม่จะมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet AC synchronous ให้กำลังสูงสุด 16.7 แรงม้า ส่งผ่านการขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อถาวร (AWD) พร้อมกับแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ความจุ 13.5 kWh### จบยุคการผลิตในประเทศในขณะที่รถยนต์รุ่นปัจจุบันอย่าง Subaru Forester และ XV ที่มีการผลิตในประเทศ (CKD) จากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จะมีการยุติการผลิตภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นดังกล่าวยังคงจะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องผ่านแพ็คเกจบริการ 6-STAR CARE+ ที่ครอบคลุมตลอดอายุการใช้งาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร